รู้จัก"ชูเอา เฟลิกซ์"ดาวโรจน์ดวงใหม่แห่งวงการลูกหนัง

"ชูเอา เฟลิกซ์ เป็นนักเตะที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือจนกว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชาติโปรตุเกส"
นี่คือคำพูดของ นูโน โกเมส อดีตกองหน้าระดับตำนานของทีมชาติโปรตุเกส กล่าวถึงแข้งรุ่นน้องรายนี้หลังเจ้าตัวระเบิดฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในซีซั่นนี้ ด้วยการทำไปแล้ว 11 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ในทุกรายการ (สถิติก่อนวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย.) ให้กับ เบนฟิกา ชุดใหญ่เป็นปีแรก พร้อมสร้างสถิติมากมาย เช่น เป็นแข้งอายุน้อยสุดที่ทำแฮตทริคในศึกยูโรปา ลีก ด้วยอายุ 19 ปี 152 วัน ทำลายสถิติเดิมของ มาร์โก ปยากา อดีตนักเตะ ดินาโม ซาเกรบ ที่เคยยิงใส่ กลาสโกว์ เซลติก ด้วยวัย 19 ปี 219 วัน เมื่อปี 2014 เป็นต้น
ด้วยผลงานที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าตัวกลายเป็นดาวเตะดาวโรจน์ที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งในยุโรป รวมถึงเป็นความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลโปรตุเกสจนถูกยกไปเทียบรุ่นพี่ระดับโลกทั้ง รุย คอสตา และคริสเตียโน โรนัลโด เลยทีเดียว
อดีตแข้ง “เอฟซี ปอร์โต” สำหรับ เฟลิกซ์ ที่เกิดในวิเซอู เมืองทางตอนกลางของประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 1999 และเป็นบ้านเกิดของ เปาโล ซูซ่า ยอดนักเตะแดน “ฝอยทอง” ในยุคทศวรรษ 90 เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรกกับทีมเยาวชน เอฟซี ปอร์โต ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ
ทว่าหลังจากใช้เวลาถึง 7 ปีในอะคาเดมีของ ปอร์โต เจ้าตัวกลับไม่สามารถฉายแววเก่งได้ หนำซ้ำยังถูกคำครหาจากโค้ชของทีมในขณะนั้นว่า เฟลิกซ์ ไม่เหมาะกับการเล่นฟุตบอล เพราะมีรูปร่างที่เล็กเกินไป ทำให้สุดท้ายเขาปล่อยตัวจากทีมในขณะที่มีอายุ 15 ปี
ฉายแววที่ “เบนฟิกา” แน่นอนว่าการถูกปล่อยตัวออกจากทีมใหญ่ของประเทศถือเป็นเรื่องบั่นทอนจิตใจของเขาพอสมควร อย่างไรก็ตามเจ้าตัวกลับไม่ท้อในเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เพราะในอีก 1 ปีต่อมาเขาได้ย้ายมาอยู่ที่กรุงลิสบอน และผ่านการทดสอบฝีเท้าเข้าไปอยู่กับทีมเยาวชนของ เบนฟิกา อริร่วมลีกของ ปอร์โต ได้สำเร็จ และที่นี่เองคือจุดเริ่มต้นของว่าที่แข้ง “โกลเดน บอย” แห่งยุค
หลังจากที่เข้ามาอยู่กับ เบนฟิกา เฟลิกซ์ มีพัฒนาการด้านฝีเท้าอย่างก้าวกระโดดส่งผลให้เจ้าตัวได้รับโอกาสให้ลงเล่นให้ทีมชุดสำรองของ เบนฟิกา เมื่อปี 2016 ซึ่งแม้เขาจะมีอายุเพียง 16 ปีในขณะนั้น ทว่าเจ้าตัวกับนิ่ง และมีสมาธิเกินวัย จนฝากผลงานไว้ที่ 3 ประตูจากการลงสนาม 13 นัด
ขณะที่ในปีต่อมา เฟลิกซ์ ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการคุมแผงกลางของทีมอย่างอยู่หมัด รวมถึงมีการยิงประตูที่เฉียบคม หลังทำไปอีก 4 ประตูจาก 17 นัดพร้อมช่วยให้ทีมคว้ารองแชมป์ในรายการยูฟ่า ยูธ ลีก (ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระดับเยาวชน) ซึ่งด้วยผลงานที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าตัวถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ (2018-2019) แบบเต็มตัว
ขวัญใจคนใหม่ แน่นอนว่าการเล่นในทีมชุดเยาวชน กับทีมชุดใหญ่นั้นจะแตกต่างกันอย่างสิ้งเชิง เพราะถึงแม้ เฟลิกซ์ จะมีผลงานที่จะดจ้านเพียงใด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องเจอกับผู้เล่นที่มีชื่อเสียง และประสบการณ์มากกว่าเขาในทีมคู่แข่ง ทั้ง ปอร์โต และสปอร์ติง ลิสบอน
เป็นเหตุให้ เบนฟิกา ไม่รีบร้อนส่งเจ้าหนูรายนี้ลงสนาม โดยใช้วิธีให้ค่อยๆซึมซับบรรยากาศ และให้โอกาสแบบค่อยเป็นค่อยไป จนในที่สุดเจ้าตัวก็ได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ในเกมลีกนัดที่ 2 ของฤดูกาล ในนาทีที่ 88 ของเกมชนะ เบาวิสตา 2-0
และในเกมต่อมา เฟลิกซ์ ก็ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในศึก “ลิสบอน ดาร์บี” หลังเขาถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 71 ซึ่งขณะนั้น เบนฟิกา ถูก สปอร์ติง ลิสบอน เจ้าถิ่น นำอยู่ 1-0 ซึ่งเจ้าหนูเบอร์ 79 ปีรายนี้ซึ่งมีส่วนสูงเพียง 180 เซ็นติเมตร กลับโหม่งประตูตีเสมอให้ทีมในช่วงท้ายเกม พร้อมทำให้เขากลายเป็นขวัญใจคน

ใหม่ของแฟนๆในทันที
อย่างไรก็ตามเส้นทางของเจ้าตัวกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะหลังจากนั้นเขามีผลงานที่ไม่สม่ำเสมอ จนไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงสนาม ทว่าหลังจากผ่านช่วงครึ่งซีซั่นแรก เบนฟิกา เปลี่ยนเฮดโค้ชมาเป็น บรูโน ลาเก ซึ่งได้โยก เฟลิกซ์ ไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำคู่กับ แฮริส เซเฟโรวิช ดาวซัลโวของทีมในระบบ 4-4-2 แทนที่ระบบ 4-3-3 ของ รุย วิคตอเรีย กุนซือคนเก่าที่ให้เขายืนในตำแหน่งปีกซ้าย และกลายเป็นตำแหน่งที่เจ้าหนูรายนี้สามารถฉายแววได้อย่างโดดเด่นมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเปอร์เซนต์จ่ายบอลสำเร็จเฉลี่ย 77.8% และจ่ายบอลคีย์พาสเฉลี่ย 1.1 ครั้งต่อเกม
“นิว ริคาร์โด กากา” โดย เฟลิกซ์ เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าตัวมี ริคาร์โด กากา อดีตแข้งระดับโลกของทีมชาติบราซิลเป็นไอดอลในวงการลูกหนัง จึงไม่น่าแปลกใจที่สไตล์การเล่นของทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้งเรื่องการจ่ายบอลที่เฉียบคม และแม่นยำ รวมไปถึงการจบสกอร์ที่เยือกเย็นเกินผู้เล่นวัย 19 ปี
นอกจากนั้นเขายังมีความแข็งแกร่งยามครอบครองบอล และมีจังหวะเปลี่ยนสปีดที่กองหลังยากจะรับมือ ทำให้เขาถูกยกไปเทียบรุ่นกับอดีตเพลย์เมกเกอร์สุดหล่อรายดังกล่าว
ไม่เพียงแค่นั้นเขายังถูกคาดหวังว่าจะเป็นตัวแทนของ รุย คอสตา อดีตมิดฟิลด์จอมศิลปิน ซึ่งเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับวงการฟุตบอลแดนฝอยทองเป็นอย่างมาก และจะทำให้ทีมชาติโปรตุเกสกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในอนาคตอันใกล้
ปลายทางต่อไป? ถึงแม้ว่า เฟลิกซ์ จะเคยยืนยันว่าตนเองยังมีความสุขในการค้าแข้งกับ เบนฟิกา อยู่ในขณะนี้ ทว่าเจ้าตัวก็ยอมรับว่าสักวันหนึ่งก็อยากจะได้ลงเล่นให้กับบิ๊กทีมระดับโลกเช่นกัน
และด้วยผลงานของเขาในขณะนี้เป็นเหตุให้หลายบิ๊กทีมของยุโรป นำโดย ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด, ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีข่าวว่าอยากจะคว้าตัววันเดอร์คิดรายนี้ไปเสริมทัพในซีซั่นหน้า โดยเฉพาะกับทีม “ม้าลาย” ที่พร้อมจะทุ่มงบจำนวนมหาศาลเพื่อให้ เฟลิกซ์ ไปร่วมงานกับ คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์รุ่นพี่ร่วมชาติ
โดยรายงานระบุว่าในแมตช์ที่ เบนฟิกา พบกับ เบาวิสตา เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มแมวมองจากหลายสโมสร ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และบาเยิร์น มิวนิค เดินทางมาดูฟอร์มของแข้งรายนี้ด้วยตัวเองในสนาม ซึ่งเจ้าตัวก็เหมาคนเดียว 2 ลูก ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 5-1 ซึ่งนั่นคงเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่น่าจังตามองมากเพียงใด
ทำให้ในซีซั่นหน้า เฟลิกซ์ อาจจะได้ย้ายไปค้าแข้งในต่างแดนเร็วกว่ากำหนด หากมีทีมใดพร้อมยื่นข้อเสนอจำนวน 120 ล้านยูโร (ราว 4,21 พัน ล้านบาท) ซึ่งเป็นค่าฉีกสัญญาของแนวรุกที่สื่อในบ้านเกิดของเขาขนานนามว่า “อัจฉริยะ” รายนี้
จากนี้ต้องมาติดตามกันว่าแนวรุกรายนี้จะยังคงรักษามาตรฐานเรื่องฟอร์มการเล่น รวมถึงระเบียบวินัยซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะควบคุมสำหรับผู้เล่นดาวรุ่งส่วนใหญ่เอาไว้ได้หรือไม่ ซึ่งหากเจ้าตัวทำได้เชื่อว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นแข้งระดับโลกได้ในไม่ช้านี้

อ่านต่อไปที่ >> https://www.foodjobsource.com/%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89ufabet/